NTT บริษัทเทคญี่ปุ่น ประกาศลงทุนไทย ทุ่ม 3,000 ล้านบาท สร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ชลบุรี
NTT บริษัทเทคญี่ปุ่น ประกาศลงทุนไทย ทุ่ม 3,000 ล้านบาท สร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ชลบุรี
เอ็นทีที (NTT Ltd.) บริษัทผู้ให้บริการและติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีชั้นนำจากญี่ปุ่น ประกาศการลงทุนมูลค่า 3 พันล้านบาท (ประมาณ 90 ดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านเอ็นทีที โกลบอล ดาต้า เซ็นเตอร์ส คอร์ปอเรชัน (NTT Global Data Centers Corporation) เพื่อพัฒนาศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยของ NTT
โดยศูนย์ข้อมูล “Bangkok 3 Data Center” หรือ BKK3 แห่งใหม่จะพร้อมเปิดบริการครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2567 ด้วยขนาด 12 เมกะวัตต์ บนพื้นที่รวม 4,000 ตร.ม.
ทั้งนี้ ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่จะตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก รองรับความหนาแน่นสูงถึง 30kW ต่อแร็ค
นายทาเคชิ คิมูระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นทีที โกลบอล ดาต้า เซ็นเตอร์ส โฮลดิ้ง เอเชีย จำกัด กล่าวว่า “กิจกรรมทางเศรษฐกิจบนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีอยู่ในเอเชียใต้กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลคุณภาพสูงมารองรับความต้องการทางด้านดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขององค์กร
หลังจากการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่จาการ์ตา Jakarta 3 Data Center (JKT3) ในอินโดนีเซียแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2565 รวมถึงศูนย์ข้อมูลไซเบอร์จายา Cyberjaya 6 Data Center (CBJ6) ในมาเลเซีย ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2566 เรายินดีที่จะประกาศแผนให้บริการ BKK3 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 บนพื้นที่ติดกับศูนย์ข้อมูล Bangkok 2 Data Center (BKK2)
โดยวางแผนจะขยายเพิ่มเติมในพื้นที่ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งจะสามารถช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทย รวมถึงรองรับการเพิ่มขึ้นของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และการใช้ข้อมูล”
นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีที (ประเทศไทย) จำกัด ผู้รับผิดชอบการดำเนินธุรกิจในกัมพูชา เมียนมาร์ ลาว และไทย กล่าวว่า “เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตที่สำคัญสำหรับ NTT
และในขณะที่ประเทศไทยมีความก้าวหน้าด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจัดการการรับส่งข้อมูลในปริมาณมากแบบเรียลไทม์จึงมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงยินดีที่จะริเริ่มการก่อสร้าง BKK3 และการขึ้นเป็นผู้นำที่มีบทบาทหลักต่อการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทย”
“ความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลและบริการโฮสติ้งที่มีระบบจัดการ (data storage and managed hosting services) คาดว่าจะเติบโตอย่างมากทั่วประเทศไทย ศูนย์ข้อมูล BKK3 จะรองรับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะผู้ให้บริการคลาวด์และอุตสาหกรรมการเงิน ซึ่งต้องการศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลที่ออกแบบอย่างยืดหยุ่น เพื่อช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ”
นายสุทธิพัฒน์ ลือประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีที โกลบอล ดาต้า เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “การริเริ่ม BKK3 ที่จะควบคู่ไปกับ BKK2 ที่มีอยู่ เพื่อต่อยอดการดำเนินงาน การวางแผน และการใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ต่ำถึง 1.4 เท่า พร้อมยังคงนำพลังงานสีเขียวมาใช้ในศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลของ NTT และยึดเอาความยั่งยืนมาเป็นแกนหลักในการวางนโยบายของบริษัท โดย NTT Ltd. จะมุ่งเข้าไปมีบทบาทสำคัญในการให้บริการข้อมูลความเร็วสูง เพื่อสนับสนุนระบบนิเวศดิจิทัลของประเทศไทย”
ปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่กำลังสร้างขึ้นตามวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัท NTT Group ในด้านนวัตกรรมสีเขียวที่วางแผนระยะยาวไว้ถึงปี 2040 (พ.ศ. 2583) กรอบวิสัยทัศน์ดังกล่าวจะช่วยให้ NTT บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ทั่วทั้งกลุ่มบริษัทภายใน พ.ศ. 2573 และทั่วทั้งห่วงโซ่ value chain ภายใน พ.ศ. 2583 สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมายปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายใน พ.ศ. 2593
อ่านข่าวธุรกิจที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : พาณิชย์ตรวจเครื่องชั่งกันผู้ค้าเอาเปรียบผู้บริโภค